หลายๆ คน คงสงสัย และถามกลับมาว่า ถ้าผมเรียนดี จำดีอยู่แล้ว มานั่งทำแบบฝึกหัดพวกนี้ เปลี่ยนวิธีตำแบบนี้ มันไม่เสียเวลาหรือ
คำตอบก็คือ "เสียเวลา" ครับ
แต่ เฉพาะช่วงที่เริ่มฝึกเท่านั้น เพราะหลังๆ มันจะช่วยให้คุณ "จำได้เร็ว และประหยัดเวลาขึ้นอีกมาก"
เชื่อไม่ลงหรือครับ ผมจะค่อยๆ อธิบายให้ฟัง
คำตอบก็คือ "เสียเวลา" ครับ
แต่ เฉพาะช่วงที่เริ่มฝึกเท่านั้น เพราะหลังๆ มันจะช่วยให้คุณ "จำได้เร็ว และประหยัดเวลาขึ้นอีกมาก"
เชื่อไม่ลงหรือครับ ผมจะค่อยๆ อธิบายให้ฟัง
1. ข้อดีข้อแรก "เร็ว"
1.1 ถ้าผมให้รูปภาพมาอย่างหนึ่ง คุณตอบได้ไหมว่ามันคืออะไร มีลักษณะอย่างไร แน่นอนว่าคุณต้องตอบได้ ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณรู้จัก แต่ถ้าลองจำเป็นคำยาวๆ ดูล่ะ เช่น
1.1 ถ้าผมให้รูปภาพมาอย่างหนึ่ง คุณตอบได้ไหมว่ามันคืออะไร มีลักษณะอย่างไร แน่นอนว่าคุณต้องตอบได้ ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณรู้จัก แต่ถ้าลองจำเป็นคำยาวๆ ดูล่ะ เช่น
กับ หมาสีน้ำตาลหูตั้งตัวหนึ่ง นอนตะแคงอยู่กับพื้น กำลังทำหน้าเบื่อหน่าย
ระหว่างคุณดูรูป กับอ่านประโยค อ่านประโยคอาจจะต้องใช้เวลา 3-5 วินาที ในขณะที่คุณมองรูปใช้เวลาอาจจะไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ แต่ได้ข้อมูลที่เท่ากัน
มันประหยัดเวลาได้มากโขเลยล่ะครับ แต่ไม่ใช่ทุกคำที่เราจะสามารถใช้รูปภาพในการสื่อสารแทนได้ ในทางตรงข้าม "รูปภาพบางรูปอาจให้ข้อมูลเรามากมายมหาศาลกว่าข้อความเป็นบรรทัดๆ"
ระหว่างคุณดูรูป กับอ่านประโยค อ่านประโยคอาจจะต้องใช้เวลา 3-5 วินาที ในขณะที่คุณมองรูปใช้เวลาอาจจะไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ แต่ได้ข้อมูลที่เท่ากัน
มันประหยัดเวลาได้มากโขเลยล่ะครับ แต่ไม่ใช่ทุกคำที่เราจะสามารถใช้รูปภาพในการสื่อสารแทนได้ ในทางตรงข้าม "รูปภาพบางรูปอาจให้ข้อมูลเรามากมายมหาศาลกว่าข้อความเป็นบรรทัดๆ"
1.2 เพราะฉะนั้น บางครั้ง การจำรหัสหรือจำด้วยรูปภาพจึงมีส่วนช่วย รวมถึงความรู้สึก สีสัน ความติดตาตรึงใจที่เราสามารถผสมไปในนั้นได้ด้วย (พูดง่ายๆ คือทำให้เรามีความจดจ่อในการทำข้อมูล ทั้ง 1.2.1 การผูกสัญลักษณ์ 1.2.2 การตกแต่ง หรือ 1.2.3 สีสันของภาพ) ซึ่งถ้าเราจะมาเอาข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้มาพรรณาเป็นประโยคแล้วล่ะก็ คงต้องเขียนกันจนเริ่มเมื่อยมือเลยทีเดียว
1.3 ง่ายต่อการทบทวน เพียงแค่มอง ก็ได้ข้อมูลทั้งหมด
แล้วทำไมเราจึงควรนำข้อมูลมาเชื่อมต่อกันระโยงระยางราวกับใยแมงมุม?
ไมน์แมพ หรือแผนที่ความจำ มักจะเน้นสิ่งสำคัญให้อยู่ตรงกลาง และแตกยอด แต่หน่อเหมือนกิ่งไม้ แผ่สาขาออกไปเรื่อยๆ
จริงๆ แล้วสิ่งที่เราเรียนๆ อยู่ก็แผ่ออกไปแบบเดียวกันครับ เหมือนกับต้นไม้ ที่รากสำคัญที่สุด ต่อด้วยลำต้น และแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปอย่างมากมาย จากกิ่งใหญ่ สู่งกิ่งเล็กกิ่งน้อย
2. การแผ่กิ่งก้านแบบนี้ ทำให้ดูข้อมูลแล้วเข้าใจลำดับความสำคัญ หรือหัวข้อได้ง่ายครับ
เริ่มจาก บทที่ 1 หัวข้อที่ 1 แล้วก็ข้อ 1.1 กับข้อ 1.2 แต่กว่าเราจะเรียนไปจนถึงหัวข้อย่อยที่ 5 เราคงลืมหัวข้อย่อยแรกๆ ไปแล้ว
อ่านทีละบรรทัด ทีละหน้า พลิกหน้าก็ลืมเสียแล้ว ในขณะที่ถ้าเอาหัวข้อย่อยทั้งหมดมาประกบติดที่บทที่ 1 และค่อยๆ แผ่ขยาย กระจายรายละเอียดออกไป (2.1&2.2)
2.3 การวางตำแหน่งของรูปทรง และการแผ่ขยายนั้น ทำให้เราจำหัวข้อย่อยได้โดยไม่ยาก 4 หัวข้อก็เหมือนเหนือใต้ออกตก 5 หัวข้อก็รูปร่างคล้ายดาว 6 กัวข้อก็ดูคล้ายกระดองเต่า
แล้วก็แยกย่อยออกไปคล้ายๆ กันอีก จะย่อยสักกี่ชั้น ก็สามารถดูได้ง่ายว่าตรงนี้ต่อจากตรงไหน เกี่ยวข้องกับอะไร ในขณะที่มานั่งอ่านทั้งหมด แล้วมายัดในสมองทั้งยวง ตรงไหนอยู่ตรงไหนก็จะไม่ได้เสียแล้ว
3. สนุก
นอกจากนี้ เรายังใส่สิ่งที่เราต้องการ สีสัน และรูปร่างลงในข้อมูลที่เราพยายามบันทึกได้ มันทำให้สนุก และทำให้เรามีความใส่ใจ จดจ่อกับมันมากขึ้น ไม่เบื่อ ซึ่งก็มีส่วนช่วยที่ทำให้เราจดจำข้อมูลได้แม่นยำยิ่งขึ้น
3.1 การตกแต่ง ยังช่วยให้เราได้พัฒนาทักษะการวางองค์ประกอบด้วย
3.2 ฝึกวิชาศิลปะ วาดภาพ พัฒนาสมองไปในตัวโดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยจะได้วาดภาพ หรือทำงานศิลปะ
3.3 ได้แสดงตัวตนออกมา แสดงออกมาในแบบของตัวเอง การที่เราได้แสดงออกในสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่เป็น มันช่วยส่งเสริมบุลลิกภาพด้วยนะครับ
1.3 ง่ายต่อการทบทวน เพียงแค่มอง ก็ได้ข้อมูลทั้งหมด
แล้วทำไมเราจึงควรนำข้อมูลมาเชื่อมต่อกันระโยงระยางราวกับใยแมงมุม?
ไมน์แมพ หรือแผนที่ความจำ มักจะเน้นสิ่งสำคัญให้อยู่ตรงกลาง และแตกยอด แต่หน่อเหมือนกิ่งไม้ แผ่สาขาออกไปเรื่อยๆ
จริงๆ แล้วสิ่งที่เราเรียนๆ อยู่ก็แผ่ออกไปแบบเดียวกันครับ เหมือนกับต้นไม้ ที่รากสำคัญที่สุด ต่อด้วยลำต้น และแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปอย่างมากมาย จากกิ่งใหญ่ สู่งกิ่งเล็กกิ่งน้อย
2. การแผ่กิ่งก้านแบบนี้ ทำให้ดูข้อมูลแล้วเข้าใจลำดับความสำคัญ หรือหัวข้อได้ง่ายครับ
เริ่มจาก บทที่ 1 หัวข้อที่ 1 แล้วก็ข้อ 1.1 กับข้อ 1.2 แต่กว่าเราจะเรียนไปจนถึงหัวข้อย่อยที่ 5 เราคงลืมหัวข้อย่อยแรกๆ ไปแล้ว
อ่านทีละบรรทัด ทีละหน้า พลิกหน้าก็ลืมเสียแล้ว ในขณะที่ถ้าเอาหัวข้อย่อยทั้งหมดมาประกบติดที่บทที่ 1 และค่อยๆ แผ่ขยาย กระจายรายละเอียดออกไป (2.1&2.2)
2.3 การวางตำแหน่งของรูปทรง และการแผ่ขยายนั้น ทำให้เราจำหัวข้อย่อยได้โดยไม่ยาก 4 หัวข้อก็เหมือนเหนือใต้ออกตก 5 หัวข้อก็รูปร่างคล้ายดาว 6 กัวข้อก็ดูคล้ายกระดองเต่า
แล้วก็แยกย่อยออกไปคล้ายๆ กันอีก จะย่อยสักกี่ชั้น ก็สามารถดูได้ง่ายว่าตรงนี้ต่อจากตรงไหน เกี่ยวข้องกับอะไร ในขณะที่มานั่งอ่านทั้งหมด แล้วมายัดในสมองทั้งยวง ตรงไหนอยู่ตรงไหนก็จะไม่ได้เสียแล้ว
3. สนุก
นอกจากนี้ เรายังใส่สิ่งที่เราต้องการ สีสัน และรูปร่างลงในข้อมูลที่เราพยายามบันทึกได้ มันทำให้สนุก และทำให้เรามีความใส่ใจ จดจ่อกับมันมากขึ้น ไม่เบื่อ ซึ่งก็มีส่วนช่วยที่ทำให้เราจดจำข้อมูลได้แม่นยำยิ่งขึ้น
3.1 การตกแต่ง ยังช่วยให้เราได้พัฒนาทักษะการวางองค์ประกอบด้วย
3.2 ฝึกวิชาศิลปะ วาดภาพ พัฒนาสมองไปในตัวโดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยจะได้วาดภาพ หรือทำงานศิลปะ
3.3 ได้แสดงตัวตนออกมา แสดงออกมาในแบบของตัวเอง การที่เราได้แสดงออกในสิ่งที่อยากทำ สิ่งที่เป็น มันช่วยส่งเสริมบุลลิกภาพด้วยนะครับ
4. ข้อดีถัดมาคือ ง่ายกับการทบทวน (Manage คือจัดการการทบทวน) พอดูรูป หรือโครงที่เราทำขึ้นมาแล้ว เราก็นึกเนื้อหาออก หรือถ้าบางส่วนเรานึกไม่ออก มันก็เป็นแผนที่ ที่ทำให้เรารู้ว่า เราขาดตรงไหน ต้องย้ำตรงไหน (4.1 Fix) ไม่ใช่ว่า ต้องมาย้ำ มาอ่านใหม่ทั้งยวง (4.2 no repeat)
เหมือนเวลาท่องกลอน ถ้าคุณท่องไม่ได้ท่อนไหน คุณจะมาไล่ท่องทั้งหมด หรือจะท่องเฉพาะท่อนล่ะ
4.3 ถ้าขาดตกตรงไหน เราสามารถเพิ่มเติมข้อมูลไปได้ง่าย ไม่ต้องลบแก้เขียนใหม่ สามารถแทรกไปได้โดยง่าย แต่ถ้าอัดแน่นไป ก็แปะโพสต์อิทเพิ่มเอาละกัน
เหมือนเวลาท่องกลอน ถ้าคุณท่องไม่ได้ท่อนไหน คุณจะมาไล่ท่องทั้งหมด หรือจะท่องเฉพาะท่อนล่ะ
4.3 ถ้าขาดตกตรงไหน เราสามารถเพิ่มเติมข้อมูลไปได้ง่าย ไม่ต้องลบแก้เขียนใหม่ สามารถแทรกไปได้โดยง่าย แต่ถ้าอัดแน่นไป ก็แปะโพสต์อิทเพิ่มเอาละกัน
5. อีกข้อคือ การทบทวนของคุณมีน้ำหนักเบา (light =แสงสว่าง หรือหลอดไฟ) กระดาษสรุปไม่กี่แผ่นต่อบท กับที่ต้องมาพกหนังสือเป็นเล่มๆ อันไหนสบายกว่ากัน
แถมยัง 5.1 สั้น
แถมยัง 5.1 สั้น
5.2 การทำเช่นนี้ ช่วยฝึกให้เราสรุป และจับใจความสำคัญได้ สมัยก่อนตอนผมเรียน ย่อ กับสรุปบทนี่ ทำไม่เป็น อ่านจับใจความไม่ได้ ซึ่งทำให้มีปัญหากับการเรียนในหลายๆ วิชามาก ในขณะที่การทำไมน์แมพ ที่ใช้รูปภาพหรือคีย์เวิร์ดเหล่านี้ เป็นการบังคับให้เราเค้นหัวข้อสำคัญๆ ออกมาโดยปริยาย ซึ่งจะช่วยให้เราคั้นน้ำในเนื้อหาและบทเรียนทิ้งไปได้ จนเหลือแต่เนื้อๆ ที่จำเป็น สำคัญ และต้องเอาไปใช้
5.3 การทบทวนนั้น ก็ใช้แค่วิธี มองอย่างเดียวเท่านั้น ไล่เส้นไป ไม่ต้องอ่านทีละหลายๆ หน้า
5.3 การทบทวนนั้น ก็ใช้แค่วิธี มองอย่างเดียวเท่านั้น ไล่เส้นไป ไม่ต้องอ่านทีละหลายๆ หน้า
อย่างดูสรุปรูปที่ผมเอามาวางให้นี่ มันครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมดที่ผมพูดหรือเปล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น